บทสุดท้ายกับภารกิจผู้การสระแก้ว

ปล่อยแถวระดมกวาดล้าง

 

ก้าวแรก กับภารกิจ…”ผู้การสระแก้ว”

30 กันยายน 2560 การข่าว”วงใน”จากห้องประชุม ก.ตร. โทรมาหาผม คนต้นสายส่งเสียงกระซิบกระซาบ บอกกับผมว่า “พี่ ๆ ความลับนะ อย่าบอกว่าหนูคาบข่าวมาบอกพี่” ผมรับปากรับคำคนต้นสาย แถมกับแอบยิ้มในใจว่า ไอ้น้องคนนี้มันต้องแอบเอาข่าวดีมาบอกผมแน่ ๆ พร้อมกับแอบคาดหวัง แบบมั่นใจอีกด้วยว่า ข่าวที่ผมจะได้รับในอีกไม่กี่วินาทีจากสายลับต้นทาง จะต้องบอกผมว่า ผมได้ขึ้นตำแหน่งรองผู้บัญชาการแล้วเป็นแน่ หลังจากหน้าด้านหน้าทน เป็น “ผู้การจังหวัดสระแก้ว” มาแล้ว 4 ปีโดยไม่ได้ขยับก้นย้ายไปที่ไหนเลย ซึ่งน้อยคนนัก ที่จะหน้าด้านหน้าทนอยู่ถึงสี่ปี โดยไม่ขยับเขยื้อนไปที่ไหนเลยได้ อีกอย่างนึง อายุงานสี่ปี สำหรับการเป็นผู้การ มันนานเกินพอ นานกว่าหลักเกณฑ์ ก.ตร.ที่เค้าบอกว่าให้เป็นแค่สองปีก็พอ หลังจากนั้นก็ขึ้น ๆ ไปเหอะ ให้คนอื่นเค้ามาเป็นบ้าง เพราะฉะนั้น การเป็นผู้การสี่ปีของผม ก็แทบจะ “นอนมา” อยู่แล้ว ว่าต้องได้รับการพิจารณา “ถีบ” ให้ขึ้นตำแหน่งสูงขึ้นแบบไม่ต้องสงสัย
ผมแอบกระซิบตอบคนต้นสายไปว่า ได้เลยไอ้น้อง พี่จะไม่นำความไปบอกใคร นอกจากลงอัปเดตสถานะใน Facebook…อ้าว !

รางวัล “คนต้นแบบ” อีกความภาคภูมิใจร่วมกันของตำรวจสระแก้ว

 

สี่ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก จำได้ว่า 4 ตุลาคม 2556 เย็นวันที่ฝนตกพรำๆ ผมเริ่มมาทำหน้าที่แรก กับการเป็น “ผู้การสระแก้ว” ด้วยการมาเป็นประธานในการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ที่บริเวณลานหน้าพระสยามเทวาธิราช อ.อรัญประเทศ รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย …ก็คนไม่เคยเป็นผู้การมาก่อนนี่หว่า อิอิ…เหตุการณ์วันนั้น ก็เป็นไปตามแบบธรรมเนียมของการปล่อยแถวระดัมกวาดล้างอาชญากรรมทั่ว ๆ ไป มีการแสดงกำลัง แสดงแสนยานุภาพ รถรา ม้าช้าง มีเท่าไหร่ ขนมาให้หมด ไปไหว้วานขอร้องหน่วยราชการข้างเคียงในพื้นที่ตรงไหนได้ ก็ขอให้เค้ามาร่วมกันอย่างคึกคัก ราวกับจะยกทัพไปจับอาชญากรสำคัญระดับโลกที่ไหน

ตรวจการตั้งจุดสกัด หลังจากปล่อยแถวระดมกวาดล้าง @ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว เมื่อ 4 ต.ค.56

แต่….หลังจากประกอบ “พิธีกรรม” เสร็จ บรรดาสรรพกำลังที่ว่า ก็มลายหายไปพร้อมกับการกลับเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ นั่นก็คือไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ มากกว่าการเป็นแค่ละครบทหนึ่ง ถ่ายรูป ลงไลน์ ส่งผู้บังคับบัญชา …ซึ่งผมก็รู้สึกอึดอัดทุกครั้ง ที่ต้องถูกสั่งให้เล่นละครบทนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการแสดงสรรพกำลังเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ อุ่นใจ ถือเป็นเรื่องจำเป็น แต่หลังจากแสดงกำลัง ปล่อยแถว แล้ว…ไงต่อ นั่นซิ น่าจะจำเป็นกว่า เพราะค่าใช้จ่ายกับกิจกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าน้อย ๆ เคยมีใคร เคยมีหน่วยไหน ทำการวิจัย ประเมินผล กันบ้างไหม ว่ามันคุ้มค่าไหม แล้วเอาเข้าจริง ๆ ประชาชนเค้ารู้สึกดีขึ้นจริงไหม ยิ่งไปกว่านั้น กิจกรรมลักษณะนี้ ทำกันอย่างเอิกเริก โจ่งครึ่ม แล้วโจรที่ไหนมันจะอยู่ให้กวาด ให้ล้างกัน ผมก็ยังแอบสงสัย แอบขัดแย้งกับกิจกรรมเหล่านี้อยู่ จนระยะหลังเมื่อผมมาเป็น “ผู้การสระแก้ว” อย่างจริงจัง ก็เลยแอบ “กบฎ” กับกิจกรรมละครลวงโลกอย่างนี้ แต่ผมจะทำอะไร อย่างไร ลงไป อย่าให้บอกเลยครับ เดี๋ยวผู้บังคับบัญชาที่เค้าสั่งให้ทำ เค้าจะมารุมกระตืบผมเอา อิอิ

รับเครื่องหมายยศพลตำรวจตรี

ครับ ตอนนี้ผมเป็นเหมือนตาแก่ ที่กำลังฟื้นความหลัง…แน่นอนครับ ถ้ามันเป็นความหลังที่เจ็บปวด ก็คงไม่อยากฟื้น แต่ผมคิดว่าตั้งแต่วันแรกที่ผมมาทำหน้าที่ “ผู้การสระแก้ว” จนกระทั่งวันนี้ จะครบสี่ปีอีกไม่กี่วัน มันเป็นเหมือนความหลังที่มีคุณค่าที่สุดอีกสิ่งหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่หมายความว่าตลอดสี่ปีที่อยู่ที่นี่ผมจะมีแต่ความสุขสนุกสนานนะครับ ไอ้ความทุกข์ ความเครียด ปัญหาสารพัด มันก็มีอยู่เป็นธรรมดาโลก แต่พอมันถูกคลี่คลาย ถูกแก้ไขด้วย “นวตกรรมแบบตำรวจสระแก้ว” ทุกอย่างมันก็จบแบบ Happy Ending ทุกครั้ง

พี่อู๋…พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว…ความภาคภูมิใจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผมเริ่มต้นการเป็นผู้การ ตามแนวทางของผู้บังคับบัญชาต้นแบบ ผู้บังคับบัญชาที่ผมสามารถก้มหัวโค้ง ยกมือไหว้สวัสดี ได้ทั้งร่างกายและหัวใจ ครับ…พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร.หรือที่พวกเราเรียกท่านอย่างสนิทปากว่า “พี่อู๋” …พี่อู๋ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ส่งผมมาเป็นผู้นำคนแบบไปเผชิญชะตากรรมเอาข้างหน้า แต่พี่อู๋ทั้งปลูก ทั้งฝัง ทั้งกำชับ ทั้งขู่ และที่สำคัญ พวกเราที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนั้น ต้องผ่านการฝึก การอบรม เคี่ยวกรำให้มาทำหน้าที่ “ผู้นำ” ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ..การเป็นผู้นำ กับการเป็นผู้การ บางคนคิดว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่ ณ วันนี้ ผมตระหนักแล้ว ตระหนักจากผลการปฏิบัติตลอดสี่ปีของผมว่า บางครั้งมันอาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวกันก็ได้ …สิ่งที่พี่อู๋อบรมพวกเรามาตลอด ซึ่งจะว่าไปแล้ว ตั้งแต่พี่อู๋เป็นนายตำรวจปกครองยศพันตำรวจตรีเมื่อครั้งผมเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจโน่นแหละ มันทำให้ผมไม่กล้าทำในสิ่งที่จะทำให้ภาวะผู้นำจะสูญเสีย

ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมใหญ่ 2556

แล้วสิ่งหนึ่งที่ทำให้กำแพงแห่งความสงสัยถูกทลายลง ว่า หน้าตาโหด ๆ อย่างผมจะมาไม้ไหนหนอ ก็คือเรื่องที่เหมือนจะง่าย แต่มันยากเหลือหลายที่จะต้องต่อสู้กับกิเลส ความอยากได้อยากมีของมนุษย์ โดยเฉพาะมนุษย์ที่อยู่ในจุดที่มองเห็นอะไรก็ตีความไปว่าสิ่งนั้นเป็น “ของกู” ไปซะทุกเรื่อง นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า “ความเสียสละ” ผมเริ่มสร้่าง เริ่มปรับแต่งสถานที่บรรยากาศที่ทำงานใหม่ ให้พี่น้องตำรวจสระแก้วของผมได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงแบบ “ปฏิรูปยกแผง” ผมเริ่มปฏิรูปงานสวัสดิการพื้นฐาน ทั้งห้องทำงานของฝ่ายอำนายการและห้องอาหาร โดยเฉพาะสวัสดิการอาหาร ซึ่งหลายหน่วยงานเค้าก็มีโครงการอาหารกลางวัน แต่สำหรับตำรวจสระแก้ว ผมมีทั้งอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น สำหรับคนที่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ สรุปก็คือมีอาหารทั้งสามมื้อ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะวันราชการเท่านั้นนะ วันหยุด ก็ยังไม่เว้น ยังตามมาหลอกหลอนให้กินกันอีก เรียกได้ว่าวันละสามมื้อ เจ็ดวันต่อสัปดาห์ กินกันให้อ้วนกันทั้งหน่วย แล้วเวลากินข้าว พี่อู๋สั่งนักสั่งหนา ว่าต้องกินอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ดังนั้นห้องอาหารของพวกเรา ก็จึงถูกเนรมิตรขึ้นมาใหม่แบบที่หน่วยราชการอื่นเวลามาเยี่ยมมาเยือนพวกเรา ต้องแอบอิจฉาอยู่ไม่น้อย นอกจากนั้น เพื่อเอาใจคอกาแฟ …รวมทั้งตัวผมเองด้วย อิอิ…เราก็จะมีกาแฟสด บริการตลอด 24 ชั่วโมง แบบที่เรียกว่า กดปี๊ด กดปี๊ด น้ำกาแฟร้อน ๆ หอมกรุ่น ไหลรินออกมา ราวกับอยู่ในร้านกาแฟยอดนิยม Starbucks ยังไงอย่างงั้น 555

สภาพห้องทำงานแบบเดิม ๆ ก่อนตุลาคม 2556
สภาพห้องทำงานแบบเดิม ๆ ก่อนตุลาคม 2556
สภาพอาคารแบบเดิม ๆ ก่อนตุลาคม 2556
ห้องทำงานใหม่ของพวกเรา ตั้งแต่ 2557
ห้องทำงานใหม่ของพวกเรา ตั้งแต่ 2557

ห้องประชุม ก็เป็นอีกหน้าตาของพวกเราที่จะต้องถูกยกเครื่องใหม่ จากเดิมที่เคยนั่งประชุมกันแบบ “บ้านๆ” ผมก็สั่งทุบทิ้งแบบไม่เหลือซาก แล้วปฏิสังขรณ์ห้องประชุมใหม่ ในแบบโอ่อ่า ล้ำสมัย จนหน่วยราชการหลายหน่วยมาขอยืมใช้อยู่บ่อย ๆ ในราคา…ฟรี อิอิ…และนั่นก็เป็นก้าวแรกของการมาเป็น “ผู้การสระแก้ว” เมื่อสี่ปีที่แล้ว บางคนถามผมว่าเอากะตังค์ที่ไหนนักหนามาทำ ซึ่งผมก็อยากจะตอบแบบพระเอกกะเค้าบ้างว่า ไอ้กะตังค์หน่ะ มันไม่ถึงกับแร้นแค้นไม่มี ไม่หนีไม่จ่ายหรอกครับ แต่มันอยู่ที่ว่า จะ “ใจถึง” เอามาเสียสละ หรือว่าจะ “ใจถึง” เอาไว้เป็นส่วนตัว 555

สภาพห้องประชุมเดิม ก่อนตุลาคม 2556
สภาพห้องประชุมเดิม ก่อนตุลาคม 2556
สภาพห้องประชุมเดิม ก่อนตุลาคม 2556
ห้องรักษ์วินัย ห้องประชุมใหม่ของพวกเรา ตั้งแต่ปี 2557
หรูหรา เรียบง่าย ห้องประชุมตำรวจสระแก้ว
หรูหรา เรียบง่าย ห้องประชุมตำรวจสระแก้ว
ห้องอาหาร “วิจัยกรณี” แหล่งเพิ่มพลังของพวกเรา ตั้งแต่ ต้นปี 2557
ห้องอาหาร “วิจัยกรณี” แหล่งเพิ่มพลังของพวกเรา ตั้งแต่ ต้นปี 2557

 

บริการอาหาร เช้า กลางวัน เย็น..กินกันให้อ้วน
กินต้องดูดี มีเกียรติ…คือตำรวจสระแก้ว
ความสุขอยู่ที่การกินอาหารร่วมกัน
กาแฟสดฟรี 24 ชั่วโมง

….22 พฤษภาคม 2557 ภายหลังจากการเข้ายึดอำนาจของ คสช. ผมคิดว่า ผมคงต้องสิ้นสุดภารกิจการเป็นผู้การสระแก้วเป็นแน่ แต่กาลกลับตรงกันข้าม จากวันนั้นถึงวันนี้ มันดูเหมือนจะนานนะ แต่ภาพความทรงจำในวันก่อน ๆ มันเหมือนกับเพิ่งจะผ่านพ้นมาได้ไม่นาน บทบาทหน้าที่การเป็นผู้การ จากที่เคยทำหน้าที่ควบคุมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน ในวันก่อนมีการรัฐประหาร ก็กลับมาทำหน้าที่ด้านความมั่นคง ร่วมกับพี่น้องทหาร ซึ่งถือเป็นโชคดีของผมอีกเช่นกัน ที่เคยผ่านรั้วโรงเรียนเตรียมทหารมา ทำให้มีพี่ ๆ น้อง ๆ ทหารสระแก้ว คอยช่วยเหลือสนับสนุนให้งานของพวกเรา ตำรวจสระแก้ว ราบรื่นไปด้วยดี มันเป็นความราบรื่นซะจนทำให้ผมต้องอยู่ต่อเป็นผู้การสระแก้วมาถึงทุกวันนี้ไงครับ  555

And now the end is near….วันนี้เวลาของการเป็นผู้การสระแก้วของผมหมดลงแล้วครับ  มันหมดลงตั้งแต่ที่ตร.มีคำสั่งให้ไปรักษาราชการในตำแหน่งใหม่ ที่รอการโปรดเกล้า ฯ นั่นก็คือตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด….ชีวิตยังต้องเดินหน้าต่อ …ท่อนหนึ่งของเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุด ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร ที่ว่า…ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งควร ….บวกกับความรัก ความปรารถนาดีของพี่น้องตำรวจ พี่น้องประชาชน คนสระแก้ว ทำให้ผมมั่นใจที่จะเดินหน้าต่อ ในแบบขายังแข็ง แรงไม่ตก ชกต่อเนื่อง 555 แม้ว่าสายตาของใครบางคนอาจจะมองว่ามันไม่ก้าวหน้านัก  แต่สำหรับผม ผมตระหนักดีครับว่าการเดินหน้าทำในสิ่งที่ถูกที่ควร ทำในสิ่งที่รักษาเกียรติ รักษาศักดิ์ศรี ผลตอบแทนของมัน “อิ่มใจมาก ๆ ครับ” ใครไม่เคยได้ลิ้มลอง อยากจะแนะนำให้ลองดูครับ รับรองว่าเงินซื้อไม่ได้จริง ๆครับ ผมยืนยัน เพราะผมสัมผัสมาแล้ว จากพี่น้องตำรวจ พี่น้องประชาชน คนสระแก้ว

ขอบคุณด้วยห้วใจจริง ๆ ครับ กับการให้ผมเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นใจ ในเส้นทางของเกียรติ และศักดิ์ศรี ที่เราสร้างมาร่วมกัน ขอโทษ ถ้าที่ผ่านมาผมมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดทำให้ไม่สบายใจ ไม่สบายกาย…และหวังว่า สักวันหนึ่ง เราจะได้มีโอกาสกลับมาร่วมงาน ร่วมชีวิต ดั่งคนในครอบครัวเดียวกัน …”ครอบครัวตำรวจสระแก้ว” …”ครอบครัวชาวสระแก้ว” …เหมือนอย่างที่ผมมีโอกาสเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา

โชคดี…บุญรักษาครับ

ปล. ขอถือโอกาสออกจากบรรดากลุ่มไลน์ของพี่น้องตำรวจสระแก้วเลยนะครับ เพื่อความราบรื่นของการบริหารราชการของหัวหน้าหน่วยท่านต่อไป

สวัสดีค้าบบบบบ

 

 

4 thoughts on “บทสุดท้ายกับภารกิจผู้การสระแก้ว

  1. แม้จะได้ร่วมงานกันพี่แรกในระยะสั้นๆ แต่ก็รับรู้ได้ ว่าได้เคยร่วมงานกับพี่ในฐานะผู้นำหน่วยที่สง่างาม เป็นผู้บังคับบัญชา ที่ดี เป็นพี่ที่น่ารักเสมอ หนทางข้างหน้ายังสดใส ขอเอาใจช่วยเสมอ ครับ

ใส่ความเห็น