น่องทอง25…เราจะแก่ไปด้วยกัน

เสาร์-อาทิตย์ ที่ 9-10 มีนาคม 2562  พวกเราพลพรรคเพื่อนเตรียมทหาร 25 พร้อมครอบครัวในนามกลุ่มนักปั่น “น่องทอง 25” มีนัดไปปั่นจักรยานด้วยกันในย่านจังหวัดนครนายก -ปราจีนบุรี ด้วยการชักนำของ เพื่อนตู่ พ.อ.สุรินทร์ ปรึยานุภาพ รองผอ.รมน.จว.นครนายก หัวเรือใหญ่ เจ้าภาพในพื้นที่ ผู้ที่ทุ่มเทสำรวจเส้นทางซ้ำแล้วซ้ำอีก จนมั่นใจว่าเส้นทางนี้ประดาหนุ่มน้อยเตรียมเกษียณอย่างพวกเราต้องประทับใจเป็นแน่ นอกจากสำรวจเส้นทางแล้วยังมีน้ำใจตระเตรียม “ชาเขียว” ไว้ให้พวกเราดื่มกินแก้กระหายภายหลังเหน็ดเหนื่อยจากการปั่น ซึ่งชาเขียวที่พี่ตู่เตรียมมาให้ทำเอาพวกเราดื่มกินกันจนเดินเซไปเซมา ม่ายรู้ว่าแอบผสมอะไรมา แถมยังทำให้พวกเราพักผ่อนนอนหลับได้น้อยลง ด้วยว่าเสพชาเขียวของพี่ตู่เข้าไปแล้วสภาพเหมือนคนเมา นั่งล้อมวงขำกลิ้งกันทั้งคืน

รูปหมู เอ๊ย รูปหมู่ ผองเพื่อนชมรมน่องทอง ตท.25

แน่นอนว่าสำหรับมือใหม่อย่างผม ซึ่งไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาที่บ้านให้มาปั่นกับพวกเพื่อนๆ เตรียมทหาร 25 แบบไม่ต้องกังวัลใจว่าจะไปเถลไถลที่ไหน ด้วยว่าวาจาผู้ชักชวนมาร่วมปั่น ซึ่งก็คือเพื่อนจิ๋ว พล.ต.จิรวัฒน์ พันธ์สวัสดิ์ อดีตผู้ช่วยทูตทหาร ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นั้นน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ก็เลยได้รับโอกาส ปล่อยเสือเข้าป่า เอ๊ย ปล่อยนกออกจากกรง ให้โบยบินไปกับจักรยาน Brompton ป้ายแดงได้อย่างอิสระเสรี

กับ Brompton ป้ายแดง สีบาดตา ชมพูฟ้า สวนกุหลาบ อิอิ

ผมมาถึงที่นัดหมายในเวลาเกือบ 17.00 น. ของวันที่ 9 มีนาคม 2562 ซึ่งเกินเวลานัดหมายไปเกือบชั่วโมง ด้วยการจราจรเส้นทางรังสิต นครนายกวันนี้ มันเข้าขั้นวิกฤติเข้าไปทุกที ระยะทางไม่ได้ไกลมากมาย แต่ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมง หากว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้งนี้ พรรคการเมืองไหนเสนอนโยบายแก้ปัญหาการจราจรถนนสายนี้ได้ ผมทุ่มคะแนนให้ยกครัวเลยนะ..ซิบอกให้

กับ BMW โดยพี่แอ๊น จยย.คุ้มกัน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทางได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

มาถึงแล้วไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมได้รับการจัดสรรเวลาให้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยภายในห้านาที มิเช่นนั้นแล้วเพื่อน ๆ ที่กระสันเตรียมตัวจะออกตัวตั้งแต่เที่ยงจะรุมแดกผมให้เดี้ยงกลับบ้านไปแบบไม่เหลือเยื่อใยในความเป็นเพื่อน ว่าแล้วก็รีบเตรียมเครื่องอุปกรณ์ “คลี่น้อง Brompton” จักรยานพับได้สัญชาติอังกฤษ ซึ่งว่ากันว่าใครได้ลิขสิทธิความเป็นเจ้าของ จะทำให้หน้าตาดูดี บุคลิกน่าเลื่อมใส…สรุปว่าดูดีมีชาติตระกูลขึ้นอีกเยอะ 555….ว่าแล้วก็ขึ้นควบน้อง “บร๊อมทั่น” ในทันทีโดยมิรอช้า (Brompton อ่านออกเสียงว่า บร๊อมทั่น ไม่ใช่ บรอมตั้น…ซึ่งจะทำให้จักรยานไฮโซดูโลโซไปทันที 555)

ฝูงจักรยาน “น่องทอง25” ต่างล่องลอยไร้กังวลในเส้นทางสุดแสนจะโรแมนติก

ตลอดเส้นทางการปั่นในช่วงเย็น มุ่งหน้าสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล บนเส้นทางเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ อากาศเย็นๆ เป็นใจให้การปั่นของพวกเราในวันนั้นไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้กับเส้นทางกว่ายี่สิบกิโลเมตร ใครคนนึงในกลุ่ม “น่องทอง 25” บอกกับผมไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราไม่เน้นความเร็ว แต่เราจะไปพร้อม ๆ กัน เก็บเกี่ยวความสุข ความสวยงามระหว่างทางไปด้วยกัน ประหนึ่งว่าได้ทั้งความสุขทางใจ กับสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วยกัน เพื่อนบางคนพาครอบครัว พาลูกเล็กมาร่วมกิจกรรมกับพวกเราด้วย ซึ่งเด็ก ๆ เหล่านั้น ก็มุ่งมั่นที่จะไปพร้อม ๆ กับลุง ๆ อา ๆ แบบไม่รู้เหนื่อยเช่นกัน …ใช่แล้วครับมันเป็นความสุขง่าย ๆ มันเป็นทางเดินของชีวิต ที่ดูเหมือนจะธรรมดา ไม่มีพิธีรีตรอง ไม่มีมูลค่ามากมาย แต่เต็มไปด้วยความแช่มชื่นหัวใจ ที่ไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน

สมาชิก “น่องทอง 25” ในเย็นวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2562…บันทึกไว้เป็นหลักฐาน…เราจะแก่ไปด้วยกัน

พวกเราจบกิจกรรมสำรวจเส้นทางยามเย็น ไว้ที่เวลา 18.45 น. หลังจากนัดแนะเวลารับประทานอาหารเย็นกันแล้ว ก็แยกย้ายไปล้างเนื้อล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้ามาเจอกันอีกครั้ง และจากความเหนื่อยเล็ก ๆ กับเส้นทางไม่ไกลนัก ก็ทำให้หลายคนหิวโซได้เหมือนกัน อาหารหน้าตาบ้าน ๆ กับร้านใกล้ ๆ ที่พัก จึงทำให้หลายคนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์…เรารับประทานอาหารเย็นกันจนเวลาใกล้สามทุ่ม ซึ่งจะว่าไปแล้วก็สมควรกับเวลาที่ควรจะไปพักผ่อน เพื่อเตรียมกายเตรียมใจไว้สู้ศึกในวันรุ่งขึ้น แต่ด้วยความที่ “ชาเขียวลังใหญ่” ถูกบรรจงตระเตรียมไว้รองรับบรรดาเหล่าสมาชิก “น่องทอง 25 ” แล้วตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน ก็เลยทำให้พวกเราจำเป็นต้องมานั่งล้อมวง ชงชาเขียว เล่าความหลัง ฟังเรื่องขำ กันต่อ

ล้อมวงกินข้าว เล่าความหลัง เติมพลังหนุ่ม

ชาเขียว กระป๋องแล้วกระป๋องเล่า ถูกกระชากห่วงพร้อมรินเข้าปากสมาชิกอย่างไม่เกรงใจตับ ทำให้บรรยากาศการสนทนาธรรมท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจ เป็นไปอย่างสนุกสนาน หลายคนทนปวดฉี่ ไม่อยากลุกไปไหน เนื่องด้วยกลัวว่าหากตัวไม่ปรากฎในวงชาเขียว จะถูกเหล่าสมาชิกที่เหลือ ลอบแทงหลังทันที 555… ช่วงเวลาในวงชาเขียวกับความสุขเล็ก ๆ ที่ได้อยู่ท่ามกลางสมาชิกเพื่อน ๆ นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 มันทำให้ชีวิตของผมในช่วงนั้น รู้สึกมีคุณค่า อยากมีอายุยาว ๆ เพื่อว่าจะได้ลิ้มรสกลิ่นอายแห่งความสุขเช่นนี้ไปอีกนาน ๆ ซึ่งผมก็เชื่อเหลือเกินว่า พวกเราในกลุ่มก็คงรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกับผม…โอ้ว แม่เจ้า ! เผลอแป๊บเดียว ใครคนนึงตะโกนขึ้นมาในวงว่า “ตีหนึ่งแล้วจ้าาาา” ….ตายหล่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนในเส้นทางอีกกว่า 50 กม. …ไม่ง่วงก็ต้องนอน ทุกคนหุนหันพลันลุกจากวงชาเขียวไปแบบไม่เกรงใจกระป๋องชาเขียวที่เหลืออีกมากมายเพื่อไปนอนสะสมพลังไว้สู้ต่อ….เราจะปั่นไปด้วยกัน

ตรวจสอบสภาพลมยาง “บร๊อมทั่น” ก่อนลงสนามจริง

06.30 น. ของเช้าวันที่ 10 มีนาคม 2562 ได้เวลานัดหมายในการเติมพลังอาหารเช้าก่อนออกเดินทาง สมาชิกน่องทอง 25 ทยอยมาร่วมเสพกาแฟ พร้อมอาหารเช้าเบา ๆ ก่อนตะลุยเส้นทางระยะยาวไปพร้อมกัน หัวข้อสนทนาหยอกล้อที่ค้างคากันตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่สิ้นสุด ยังคงนำมาสนทนาเหน็บแนมกันยามเช้าเป็นกับแกล้มกาแฟอย่างสนุกสนาน หลายคนตระเตรียมความพร้อมของจักรยานคู่ใจ บ้างเติมลมยาง บ้างเหยียดยืดร่างกาย เพื่อให้การปั่นระยะทาง 50 กม. กว่า ๆ ราบรื่น ไม่เป็นภาระกับตัวเองและเพื่อนร่วมทาง สมาชิกบางคนขอถอนตัวจากการปั่นยามเช้า ด้วยฤทธิ์ชาเขียวยังคงทำหน้าที่ขับกล่อมไม่ให้มีกำลังวังชาเงยหน้าเงยหัวลุกมาจากที่นอน 555

สบายอารมณ์ระหว่างทาง

พวกเราเริ่มออกเดินทางออกจากจุดสตาร์ท ที่เวลา 07.30 น. เพื่อนบางคนมีครอบครัว ลูกเมีย มาร่ำลา สั่งเสีย กอดกันกลม ราวกับจะไปสนามรบแล้วคงไม่มีโอกาสกลับมาเจอะเจอกันอีก ผมเห็นภาพนั้นแล้วความรู้สึกเริ่มหวั่นไหว เนื่องจากเป็นสนามแรกของผม แต่เป็นสนามที่นับไม่ถ้วนแล้วของเพื่อน ๆ หลายคน ใจเริ่มเต้นแรง และคิดประหวั่นไปว่า เอ..รึว่าเราจะโดนหลอกมาทำอะไรอะเปล่า ทำไมมันต้องร่ำลากันขนาดนี้ด้วยฟะ

แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ โดนป้ายยาทั้งซื้อรถหรู นาม Brompton ทั้งมาประลองสนามโดยที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องเส้นทางมาก่อน where where ก็ where where เป็นไงเป็นกัน ออกสตาร์ทพร้อมจักรยานคันหรูสีชมพูฟ้าด้วยจิตใจมุ่งมั่น ว่า “กรูต้องไม่ตาย” 555

อากาศยามเข้าตลอดเส้นทาง กับบรรยากาศสวย ๆ ของทั้งสองข้างทาง ทำให้จิตใจของผมล่องลอยไปเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน อากาศในฤดูร้อนของเดือนมีนาคม ไม่คิดว่าในดินแดนที่มีระยะทางหากจากกรุงเทพ ฯ เพียงชั่วโมงเศษ ๆ อุณหภูมิความเย็นและอุณหภูมิความสุข จะแตกต่างกันมากมายขนาดนี้ พวกเราปั่นไปพร้อมกันช้า ๆ ความเร็ว ประมาณ 18-22 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งในวงการนักปั่นถือว่าเป็นระดับ “อนุบาล” เว้นแต่เพื่อนบางคนที่พละกำลังเหลือเฟือ ผ่านการฝึกมาสารพัดหลักสูตร แถมสำทับเกทับเพื่อน ๆ มาอีกว่า ทุกหลักสูตรที่ผ่านมานั้น ล้วนเป็น Number One ตลอด ดังนั้นจะมาปั่นระดับอนุบาล ดูจะเสียหน้าเป็นอย่างมาก ก็เลยต้องทำความเร็ว หายวับไปกับสายลมยามเช้าโดยที่เราก็ไม่รู้ว่าเค้าหายไปไหน 555

ทิวทัศน์ที่พักริมทาง หลังร้านกาแฟระหว่างทางนักปั่น

เราปั่นแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ พักตามจุดที่พักสวย ๆ ถ่ายเซลฟี่กันบ้าง แวะชื่นชมความงามของดอกไม้ริมทางกันบ้าง (อย่าเข้าใจว่าเราเป็นพวกเผ่าพันธุ์พิเศษนะครับ ว่าเราเป็นพวกเผ่าพิเศษ หรือพวก “สองซิม” เพียงแต่ความงามระหว่างทางที่เราปั่นมันทำให้เราอดไม่ได้ที่จะต้องแวะทักทายกับธรรมชาติบ้าง) บางจุดที่แวะ เป็นร้านกาแฟสวยงาม รสชาติดี ที่ผมก็คาดไม่ถึงว่ามาตั้งปักหลักอยู่ในป่าในดงอย่างนี้ได้ยังไง

นั่งพักดื่มกาแฟ คุยโม้ เกทับบลั๊ฟแหลก

แน่น่อน ว่าตลอดเส้นทางการปั่น ไม่ได้มีแต่ความราบรื่นสวยงาม ปัญหาอุปสรรคย่อมต้องมีเป็นธรรมดา ซึ่งภูมิประเทศตามเส้นทางปั่นบางส่วนเป็นเนิน เป็นเส้นทางขึ้นเขา มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นักปั่นระดับอนุบาล ย่อมต้องทนทุกข์ทรมาณกับการปั่นขึ้นเนินระยะทางไกล ๆ ผมพร้อมเจ้าBrompton คู่ใจ เห็นระยะขึ้นเนินอยู่ลิบ ๆ ก็คิดว่าคงเป็นแค่ระยะสั้น ๆ ระดับเด็กอนุบาล แต่พอเข้าสู่สถานการณ์จริง ผมก็แอบคิดดัง ๆ พร้อมกับเพื่อน ๆ หลายคนว่า…”กรูจะมาทรมาณตัวเองอย่างนี้ เพื่อ…..?” 555… แต่ในที่สุดเราก็ผ่านมันมาได้ด้วยกัน ไม่มีใครเสียฟอร์มลงจากอานรถคู่ใจ แล้วเดินจูงมันเดินขึ้นเนิน ซึ่งหากใครก็ตามที่ทำเยี่ยงนั้น คงต้องโดนเผา โดนล้อเลียน โดนรุมยำ จนต้องแทรกแผ่นดินหนีเป็นแน่ ซึ่งโชคดีของผมที่เจ้า “บร๊อมทั่น” คู่ใจ ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ก็ไม่ทำให้เสียหน้า อิอิ

แอ๊คท่า ถ่ายหน้าร้านกาแฟระหว่างทาง…คอนเฟิร์มว่า สวยงาม คู่ควรกับการแวะทักทายถ่ายรูปและลิ้มรสกาแฟยามเช้า สาย บ่าย เย็น เป็นอย่างยิ่ง

ทริป “น่องทอง 25 นครนายกทัวริ่ง” เสร็จสิ้นเอาที่เวลาเที่ยงเศษ ๆ ซึ่งเกินกว่าเวลาที่พวกเราคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากความสวยงามของเส้นทางที่ทำให้อดใจไม่ได้ที่จะแวะลงไปชื่นชม บวกกับเวลาแห่งความสุข ที่ได้นั่งหยอกล้อ อำกันระหว่างเส้นทาง จนลืมไปว่าเรายังต้องมีระยะทางอีกยาวไกลที่จะปั่นต่อ แต่มันก็ทำให้การปั่นครั้งนี้เราได้เก็บความสุขเล็ก ๆ กลับไป เพื่อต่อลมหายใจให้มีชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกเรายังคงต้องต่อสู้ไปอีกยาวไกล พวกเราสัญญากันว่าจะต้องมีเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในไม่ช้า เรื่องราวที่เกิดบนอานจักรยาน ซึ่งหลายคนคงนึกไม่ออกว่ามันจะสามารถสร้างความรู้สึกดี ๆ สร้างความสุข สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับชีวิตได้อย่างไร แล้วมันก็คงเป็นโชคดีของผมด้วย ที่โดนพี่จิ๋วป้ายยา ให้ซึ้อจักรยานที่ผมคิดว่าในชีวิตหนึ่งถ้าคิดเองคงไม่กล้าซื้อจักรยานราคาเยี่ยงนี้ให้กับตัวเองเป็นแน่ และโดนซ้ำสองด้วยการเคี่ยวเข็ญให้มาปั่นทริปนี้อีก ดูผมจะเป็นคนใจง่าย ที่แม้จะทำงานอยู่ “กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด” (บช.ปส.) แต่ก็ใจง่ายไปกับยาที่พี่จิ๋วแอบนำมาป้ายโดยไม่รู้ตัวได้เช่นนี้…แต่หลังจากที่ผมได้เจ้า “บร๊อมทั่น” มาเชยชม บวกกับได้มาประลองสนามกับเพื่อน ๆ ที่นี่ ผมยืนยันได้เลยว่า มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก….ฟันธง !

อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะขึ้นไปดูช้างระหว่างทางที่เขาใหญ่ดีรึเปล่า…แต่ใครบางคนตะโกนมาว่า พวกมรึงไปกันเหอะ กรูไม่ว่าง…555

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่หลายคนก็โดนป้ายยาให้เรามาพบกันครั้งนี้ และผมก็อยากจะขอร้องแกมบังคับด้วยว่า ครั้งต่อไป ไม่ว่าพวกมรึงจะไปปั่นกันที่ไหน อย่าลืมป้ายยากระพ้ม อีกสักครา ซึ่งครั้งหน้าขอสัญญาว่า จะไม่เอาเรื่องความเก่ง ความดี ความเลอเลิศ ของน้อง “บร๊อมทั่น” มาเกทับเพื่อน ๆ อีกแล้ว เพราะมั่นใจเหลือเกินว่าครั้งหน้าเราจะ “บร๊อมทั่นไปด้วยกัลลลล” 555 ….สวัสดี รักนะ จุ๊บ ๆ

2 thoughts on “น่องทอง25…เราจะแก่ไปด้วยกัน

ใส่ความเห็น